รมต.รุดจับเข่า แม่ประนอม คลี่ปมศึกพริกเผา ลูกสาวพร้อมคุย เผยได้รับฟังปัญหาทั้งหมด



"รมต.ปนัดดา" รุดหารือแม่ประนอมทันที เร่งไกล่เกลี่ยกับลูกสาวคนโตด้วย เผยได้รับฟังปัญหาทั้งหมด แต่ไม่สามารถเผยได้ เตรียมให้ทั้ง 2 ฝ่ายมานั่งพูดคุยทำความเข้าใจ แต่คงต้องรอจังหวะที่เหมาะสม เพราะเป็นเรื่องในครอบครัว เล็งประสานเจรจากับลูกสาวด้วย-รอกำหนดวันเวลา ขณะที่ ทนายแม่ประนอมเผยรมต.มาถามไถ่สารทุกข์สุกดิบ-ให้กำลังใจ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดคดีความ ระบุการเจรจาเป็นเรื่องที่ดี-แม่ประนอมพร้อมไกล่เกลี่ยยุติปัญหา ส่วนทนายลูกสาวเผยก็พร้อมเจรจาตามประสาแม่ลูก ด้านบิ๊กตู่ยันรัฐบาลทำหมดทั้งเรื่องเล็กเรื่องใหญ่ เล็งเอาผิดคนทำรูปล้อเลียนกระปุกน้ำพริก

จากกรณีนาง ประนอม แดงสุภา ผู้ก่อตั้งธุรกิจน้ำพริกเผาแม่ประนอมชื่อดัง เดินทางเข้ายื่นหนังสือร้องเรียนกับศูนย์บริการประชาชนของรัฐบาล เพื่อขอให้พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ และหัวหน้า คสช.ช่วยเหลือ หลังกล่าวอ้างถูกฮุบกิจการน้ำพริกเผามูลค่ากว่า 5 พันล้านบาทไปเป็นของลูกสาวคนโตร่วมกับลูกเขย และมีคดีฟ้องร้องกันนัวเนีย พร้อมวอนให้คืนทรัพย์สินและกิจการ โดยจะให้อภัยและถอนฟ้อง ขณะที่ทนาย ความลูกสาวขอให้รอผลพิจารณาของศาลที่ฟ้องร้องกันอยู่ โดยไม่ขอแสดงความคิดเห็นและตอบโต้ ต่อมาม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี อาสาหย่าศึกและนัดเจรจาไกล่เกลี่ยให้ แต่ทั้ง 2 ฝ่ายต้องสมัครใจ ตามที่เคยเสนอข่าวไปนั้น

สำหรับความคืบ หน้า เมื่อวันที่ 29 มี.ค. ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและหัวหน้า คสช. กล่าวถึงกรณีดังกล่าวว่า สื่อรู้สาระแล้วหรือยังว่า ข้อเท็จจริงเป็นอย่างไร ก็ต้องพิสูจน์กัน ทำไมต้องไปตัดสินเขา เพราะถือเป็นเรื่องในครอบ ครัว เขามีลูกกันกี่คน การบริหารธุรกิจในครอบครัวเขาคิดตรงกันหรือไม่ ถ้าไม่ตรงกันก็ไปขึ้นศาลหรือจะต้องให้ตนตัดสิน

"จะให้ผมสั่ง อะไรอีก จะน้ำพริกจะปลาทู อะไรอีกล่ะ แล้วก็มาบอกว่าผมทำแต่เรื่องเล็ก ทั้งที่เรื่องใหญ่ก็ทำ ปกติเล็กๆ มิต้าเขาไม่ทำหรอก (เล็กๆ ไม่ ใหญ่ๆ มิต้าทำ) แต่อันนี้ทำหมด เล็กก็ทำ ใหญ่ก็ทำ เพราะเรื่องเล็กเป็นผลกระทบต่อประชาชน ใหญ่ๆ เรื่องโครง สร้างผมก็ทำ" พล.อ.ประยุทธ์กล่าว

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างนั้นนายกฯ ขอดูรูปในโทรศัพท์มือถือผู้สื่อข่าวที่สังคมออนไลน์ได้ทำภาพตัดต่อล้อ เลียนกระปุกน้ำพริกนรก "พ่อประยุทธ" และระบุสโลแกน "ของแท้มีอะไรกันนักกันหนา ปั๊ดโธ่" ซึ่งมีรูปพล.อ.ประยุทธ์อยู่บนฉลากด้วย โดยนายกฯ กล่าวว่า "เรื่องนี้ฉันควรจะโกรธ แต่ฉันขี้เกียจโกรธ มันไม่ผิด เพราะมันเขียนชื่อไม่ใช่ ชื่อฉัน แต่เอารูปฉันไปแพร่ ผิดรึเปล่าให้ไก่อู (พล.ต.สรรเสริญ แก้วกําเนิด) ไปดูด้วย"

ด้านม.ล.ปนัดดา ดิศกุล รมต.ประจำสำนักนายกฯ กล่าวว่า ตนจะเดินทางไปพบนางประนอม ซึ่งถือเป็นการเริ่มต้น โดยคงได้พบปะพูดคุยกันถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น ส่วนนางศิริพร แดงสุภา ลูกสาวคนโต ตอนนี้กำลังประสานอยู่ว่าอาจเป็นการพบอีกช่วง โดยจะขอนัดอีกครั้งหนึ่ง แต่ก็นัดกันอยู่ รอเพียงกำหนดวัน ซึ่งการประสานนัดเจรจาไกล่เกลี่ยทั้ง 2 ฝ่ายต่างมีอัธยาศัยดีต่อกัน

เมื่อถามว่าสังคมมองเป็นเรื่อง ของครอบ ครัว เหตุใดระดับรัฐมนตรีต้องเข้ามา ม.ล. ปนัดดากล่าวว่า ตนกำกับดูแลศูนย์บริการประชาชน (ศปช.) สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี ซึ่งภารกิจของข้าราชการคือบำบัดทุกข์บำรุงสุข ครั้งนี้ไม่ใช่ครั้งแรก เพราะมีมาหลายเรื่องแล้วที่เราเข้าไปเจรจา แต่ไม่เป็นข่าว ทั้งเรื่องความขัดแย้งภายในครอบครัว ความขัดแย้งระหว่างพี่น้อง ซึ่งเราได้ช่วยเหลือ อีกทั้งตนเคยรับราชการฝ่ายปกครองมาก่อน เคยเป็นผู้ว่าราชการจังหวัด เคยพบประชาชนในหลายพื้นที่ ทุกวันนี้ยังรู้สึกว่าตัวเองเป็นข้าราชการฝ่ายปกครองอยู่ และยืนยันจะทำหน้าที่เท่าที่จะทำได้

เมื่อถามว่าส่วนตัว อยากให้เรื่องนี้จบอย่างไร ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นเรื่องของคน ในครอบครัว ในยามนี้เราอยากเห็นทุกครอบ ครัวมีความรักสมัครสมาน จะได้เป็นตัวอย่างให้ ครอบครัวคนไทยอื่นๆ ลูกรักแม่อย่างไรก็ไม่มีคำบรรยาย แม่รักลูกอย่างไรก็ไม่มากน้อยไปกว่า กัน ตนอยากเห็นทุกบ้านทุกครอบครัวมีความร่มเย็น จะได้ช่วยเป็นแบบอย่างให้ลูกหลาน

เมื่อถามว่านายกฯ สั่งการเรื่องนี้อย่างไร ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า เรื่องนี้เป็นภารกิจปฏิบัติปกติ ในส่วนของตนที่กำกับดูแลศูนย์บริการประชาชน

เมื่อ ถามว่าเท่าที่ดูมีโอกาสแม่ลูกจะปรับความเข้าใจกันได้หรือไม่ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า ตนจะพยายาม แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นต้องเกรงใจในฐานะที่เป็นลูกสาวและเกรงใจในส่วนที่เป็นแม่ เพราะท้ายที่สุดถือเป็นคนในครอบครัวเดียวกัน

เมื่อถามว่าจะ มีโอกาสเชิญแม่และลูกมาคุยต่อหน้าหรือไม่ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า คาดว่าถ้าได้พบกับทั้ง 2 คนความสัมพันธ์แม่กับลูกตัดกันไม่ขาด

เมื่อ ถามว่าสมัยว่าราชการอยู่ที่ จ.นครปฐม สนิทสนมกับครอบครัวแม่ประนอมหรือไม่ ม.ล.ปนัดดากล่าวว่า แม่ประนอมบอกว่ารู้จักกับตน ตั้งแต่อยู่ที่ จ.นครปฐม สมัยตนเป็น ผู้ว่าราชการจังหวัดก็เคยพบกัน

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า เจ้าหน้าที่ได้ประสานติดต่อไปยังนางประนอม เพื่อนัดพูดคุยกับ ม.ล.ปนัดดา ในการคลี่คลายปัญหาข้อพิพาทกับลูกสาวคนโต โดยเจ้าหน้าที่ได้รับแจ้งว่าขณะนี้แม่ประนอมยังไม่หายจากอาการป่วย แต่สามารถพูดคุยหารือกับม.ล.ปนัดดาได้

ต่อมาเวลา 16.30 น. ที่บ้านพักของนางประนอม ย่านพุทธมณฑลสาย 3 ม.ล.ปนัดดา พร้อมคณะทำงาน เดินทางมาพบนางประนอม น.ส.ศิริวัลย์ และน.ส.ศิริลักษณ์ ลูกสาวของนางประนอม เพื่อสอบถามข้อเท็จจริงถึงเรื่องราวที่เกิดขึ้น โดยใช้เวลาประมาณ 30 นาที


จาก นั้นม.ล.ปนัดดาเปิดเผยว่า ตนมาในวันนี้ ในฐานะข้าราชการศูนย์บริการประชาชน ทำเนียบรัฐบาล มีหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข จะทำหน้าที่เท่าที่ทำได้ แม่ประนอมเป็นบุคคลสำคัญ เป็นบุคคลตัวอย่าง จึงอยากเห็นคนในครอบครัวแม่ประนอมมีความรักสามัคคีกัน อยู่เย็นเป็นสุข เพื่อเป็นตัวอย่างให้ครอบครัว คนไทยอื่นๆ อย่างไรก็ตาม ตนก็เคารพความเป็นส่วนตัวของแม่ประนอมและลูกสาวคนโตเช่นกัน


ม.ล.ปนัดดา กล่าวว่า จากการได้พบกับแม่ประนอมก็เห็นว่ามีความแข็งแรงมากขึ้น แต่ยังมีท่าทางอิดโรยอย่างเห็นได้ชัด จึงขอเปลี่ยน สถานที่พูดคุยจากร้านพีเอส เรสเตอรองต์ ย่านพุทธมณฑลสาย 3 มาเป็นที่บ้านพักของแม่ประนอม ซึ่งบรรยากาศการพูดคุยเป็นไป ด้วยดี แม่ประนอมได้เล่าเรื่องทั้งหมดให้ฟัง และให้ข้อมูลต่างๆ มากมาย แต่ตนไม่สามารถเปิดเผยได้ หลังจากนี้จะพยายามทำให้เกิดความเข้าใจกันทั้ง 2 ฝ่าย จะทำหน้าที่ข้าราชการ ให้ดีที่สุด เพราะต้องการเห็นภาพแม่ลูกดี ต่อกัน ส่วนจะทำอย่างไรต่อไปเพื่อให้เกิดภาพดังกล่าวนั้น คงต้องรอจังหวะที่เหมาะสม เพราะเป็นเรื่องของคนในครอบครัว ทั้งนี้ จะพยายามให้ทั้ง 2 ฝ่ายได้มานั่งพูดคุยกัน

ผู้สื่อข่าว รายงานว่า สำหรับความเคลื่อน ไหวตลอดทั้งวันของนางประนอม ได้เก็บตัวอยู่ภายในบ้านพัก ซึ่งติดกับสำนักงานและโรงงานพิบูลย์ชัยน้ำพริกเผาไทยแม่ประนอม โดยจากการสอบถามคนในบ้านทราบว่า นางประนอมเริ่มแข็งแรงขึ้น นอนหลับได้มากขึ้น เนื่องจากตอนนี้ไม่มีโทรศัพท์โทร.มาก่อกวนการนอนพักผ่อนแล้ว

ขณะ ที่นายพิสิษฐ์ ชุติพรพงษ์ชัย ทนาย ความฝ่ายแม่ประนอม กล่าวว่า ได้รับทราบเรื่องที่ม.ล.ปนัดดาจะเป็นตัวแทนหาข้อยุติปัญหาระหว่างแม่ประนอม และลูกสาว โดยวันนี้ม.ล.ปนัดดาได้เดินทางมาเยี่ยมแม่ประนอม ที่บ้านพัก พร้อมถามไถ่สารทุกข์สุกดิบและให้กำลังใจ แต่ไม่ได้ลงรายละเอียดในส่วนของ คดีความ เป็นเพียงการพูดคุยด้วยความเป็น ห่วงเท่านั้น เพราะไม่ต้องการก้าวล่วงอำนาจศาล ส่วนตัวคิดว่าการเรียกเข้าพูดคุยกับฝ่ายลูกสาวนับเป็นเรื่องที่น่ายินดี แต่ขึ้นอยู่กับความสมัครใจของฝ่ายลูกสาวด้วยเช่นกัน สำหรับแม่ประนอมยินดีที่จะร่วมพูดคุยอยู่แล้ว เพื่อยุติปัญหาที่เกิดขึ้นและให้จบปัญหาขัดแย้ง โดยวันและเวลานั้นยังต้องรอการยืนยันอีกครั้ง

นายพิสิษฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกรณีที่ทนาย ความฝ่ายจำเลยยื่นหนังสือมอบฉันทะต่อศาลจังหวัดนครปฐมและศาลจังหวัดตลิ่งชัน ว่าแม่ประนอมได้ถอนฟ้องคดีดังกล่าว ความจริงคือแม่ประนอมไม่ได้มีเจตนาเช่นนั้น เพียงแต่มีลายเซ็นกำกับไว้ในหนังสือมอบฉันทะ ตนจึงยื่นหนังสือคัดค้าน ขอให้ศาลจังหวัดนครปฐมไต่สวนประเด็นดังกล่าวในวันที่ 4 เม.ย. และที่ศาลจังหวัดตลิ่งชันไต่สวนในวันที่ 11 เม.ย. เพื่อหาข้อสรุปว่าแม่ประนอมยื่นหนังสือถอนฟ้องจริงหรือไม่

ส่วน นายทวิชา หวังโภคา ทนายความของนางศิริพร แดงสุภา ลูกสาวคนโตของนางประนอมกล่าวว่า สำหรับกรณีที่ม.ล.ปนัดดาพร้อมเป็นคนกลางเจรจาไกล่เกลี่ยข้อพิพาท ที่เกิดขึ้นนั้น ได้ทราบเรื่องดังกล่าวแล้ว เพียงแต่ ยังไม่ได้นัดหมายหรือกำหนดวันที่จะเข้าร่วมพูดคุย เพราะขณะนี้ตนติดภารกิจที่ต่างจังหวัด และนางศิริพรเองยังคงทำหน้าที่ตามปกติ ซึ่งตน คิดว่าน่าจะเป็นการพูดกันระหว่างนางประนอมและนางศิริพรตามประสาแม่ลูก โดยมีม.ล. ปนัดดาเป็นผู้หาข้อยุติปัญหาที่เกิดขึ้น ซึ่งตนและนางศิริพรยินดีที่จะเข้าร่วมพูดคุยครั้งนี้

"คิด ว่าน่าจะเป็นการพูดคุยเพื่อหาทางแก้ปัญหาที่เกิดขึ้น ยิ่งเป็นเรื่องระหว่างแม่กับลูกแล้วทุกฝ่ายต้องการให้ยุติโดยเร็วที่สุด เพื่อความสบายใจของทั้ง 2 ฝ่าย เพราะหากปล่อยให้ปัญหายืดเยื้อต่อไป คงไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง ดังนั้น ม.ล.ปนัดดาจึงเข้ามาช่วยเป็นสื่อกลางในการพูดคุยครั้งนี้และยินดีที่จะเข้า ร่วมเช่นกัน" นายทวิชากล่าว

นายทวิชากล่าวอีกว่า ส่วนกรณีที่นางประนอมมีการถอนฟ้องและยื่นฟ้องต่อศาล อีกครั้ง ตนไม่ขอพูดถึงเรื่องดังกล่าว เพราะต้องรอให้ผลการพิจารณาของศาลมีข้อสรุปที่ชัดเจน ก่อน เพื่อจะได้หาวิธีในการดำเนินการต่อไป
Previous
Next Post »